กรณีนาย มณฑล เพ็ชรสังข์ อายุ 48 ปี ชาวตำบลแม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย โยกรถเข็นจากบ้านมุ่งหน้าข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปยืนยันตัวตนตามที่เจ้าหน้าที่ที่จังหวัดสุโขทัยแจ้ง เนื่องจากถูกตัดสิทธิผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน จนกระทั่งตำรวจสายตรวจสภ.ไชโย พบเจอและนำไปพักผ่อนที่ สภ.ไชโย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (5ก.พ.)เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทองและ ตำรวจ สภ.ไชโย ต้องออกตามหาตัว นายมณฑล หลังจากหายออกจากสถานีตำรวจเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
หนุ่มพิการโดนตัดสิทธิ! โยกรถจากสุโขทัยมุ่งหน้า กทม.เพื่อยืนยันตัวตน
ลุงหูไม่ดีเรียกกระเป๋าเสียงดัง ทำชายหัวร้อนไม่พอใจต่อยฟันหัก!
จนเจ้าหน้าที่ต้องไปตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณริมถนนสายเอเชีย ห่างจาก สภ.ไชโย ประมาณ 100 เมตร จึงพบว่า นายมณฑลโยกรถเข็นออกจากสถานีตำรวจไปเมื่อเวลา 22.42 น. โดยย้อนไปตามถนนสายเอเชียมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จึงประสานตำรวจใกล้เคียงให้ช่วยติดตาม เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย
หลังจากที่นายมณฑล ออกมาจากสถานีตำรวจไชโย จังหวัดอ่างทอง ได้มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างนั้น ทางสภ.ไชโยได้ประสานไปยังสภ.ใกล้เคียงเพื่อให้ช่วยตรวจสอบเกรงว่าจะเกิดอันตราย ก่อนที่จะพบตัวอยู่บริเวณริมถนนสายเอเชีย ตำบลตานิ่ม อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หน่วยงานต่างๆ ทั้ง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คลัง จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยตำรวจ สภ.บางปะหัน จึงเข้าพูดคุย เพื่อจะช่วยแก้ไขปัญหา
แต่นายมณฑล แจ้งถึงจุดประสงค์ของตัวเอง ต้องการเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ในกระทรวง ถึงปัญหาของระบบการทำงานของราชการ ที่กรมบัญชีกลางด้วยตัวเอง ส่วนที่มีข่าวว่าหนีคดีมาไม่จริง
ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยเพื่อให้นายมณฑล ใจเย็นและอธิบายว่าไม่ต้องเดินทางเข้าไปถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อยืนยันตัวผู้พิการ แต่จะอำนวยความสะดวกให้ สามารถยืนยันตัวได้ที่พระนครศรีอยุธยาได้เลย
แต่นายมณฑล กลับบอกว่า ถ้าจะทำให้คงทำให้นานแล้ว ไม่ต้องให้เขาโยกรถมาถึงตรงนี้หรอก และยืนยันว่า จะโยกรถสามล้อไปเอง โดยบอกว่าถ้าเจ้าหน้าที่ หรือนักข่าวห้ามอีก จะให้รถพุ่งชน และไม่ขอคุยกับใครทั้งสิ้น
แม้แต่ นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เดินทางมาเพื่อพูดคุยด้วย นายมณฑล ก็ยังยืนยัน ว่าจะเดินทางไปพูดกับผู้ใหญ่ที่กรมบัญชีกลางด้วยตัวเอง เรื่องที่เขาไม่ได้รับเงินเบี้ยคนพิการ และไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากตนเองถูกคัดชื่อทะเบียนบ้านออกมาอยู่ทะเบียนกลาง
นายมณฑล บอกว่ายังมีบางเรื่องที่อึดอัดใจอยากจะไประบายให้กับผู้ใหญ่ฟังโดยตรงด้วยตนเอง แม้ว่าหน่วยงานในพื้นที่จะมาพูดคุยเจรจา และพร้อมที่จะดำเนินเรื่องการทำบัตรประชาชน รวมทั้งบัตรคนพิการให้ แต่ก็ไม่เป็นผล ยืนยันจะโยกสามล้อเข้ากรุงเทพฯ
นายไพรัตน์ จึงได้ให้ทางหน่วยงานในพื้นที่ ประสานกับหน่วยงานต่างๆตามเส้นทาง ที่นายมณฑล ผ่านเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องความปลอดภัยคำพูดจาก เว็บตรง true wallet
นายมณฑล ยังตำหนิผู้สื่อข่าว ที่นำเสนอไปว่า เขาจะเข้าไปร้องเรียนที่กรมบัญชีกลาง จนทำให้เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวขึ้นมา เขาบอกว่าเขาไม่ได้ร้องเรียน แค่จะเข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่เท่านั้นแต่ทำไมข่าวถึงออกไปแบบนั้น
"9 ของไหว้ตรุษจีน" เช็กอาหารคาว-หวาน-ผลไม้มีอะไรบ้าง พร้อมความหมาย
เช็กสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวดประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์
ประกาศฉบับที่ 1 เตือนอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง