เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวตกในอัฟกานิสถาน โดยเป็นเครื่องบินสัญชาติรัสเซีย แดสซอลต์ฟอลคอน 10 (Dassault Falcon 10) ซึ่งออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยามุ่งหน้าไปยังรัสเซีย พร้อมลูกเรือ 4 คนและผู้โดยสาร 2 คน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. กลุ่มตาลีบัน ซึ่งปกครองอัฟกานิสถานอยู่ในปัจจุบัน รายงานว่า เครื่องบินดังกล่าวตกในพื้นที่ภูเขาในจังหวัดบาดัคชาน ซึ่งเป็นภูมิภาคชนบทของอัฟกานิสถาน
เมียนมาปลดนายพลอย่างน้อย 6 นาย หลังยอมจำนนต่อกลุ่มโกก้าง คำพูดจาก เว็บสล็อต มาแรงอันดับ 1
สถานทูตจีนเตือน อันตรายของการศัลยกรรมความงามเกาหลีใต้
“นิกกี เฮลีย์” สงสัยสมรรถภาพจิต “ทรัมป์” หลังสับสนชื่อผู้สมัคร
ซาบีฮุลเลาะห์ อามิรี โฆษกตาลีบันประจำภูมิภาคบาดัคชาน ระบุว่า จากเหตุที่เกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้รอดชีวิต 4 คน หนึ่งในนั้นคือนักบิน
อามิรีเสริมว่า ทีมกู้ภัยได้ถูกส่งไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 250 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ชนบทภูเขา และมีประชากรอาศัยอยู่เพียงไม่กี่พันคน
กระทรวงคมนาคมและการบินพลเรือนของตาลีบันออกแถลงการณ์ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวถูกพบในเขตคุฟ อับ ของจังหวัด ใกล้กับภูเขาอารุซ โคห์
ด้านสำนักงานการบินพลเรือนของรัสเซียระบุว่า เครื่องบินแดสซอลต์ ฟอลคอน 10 ได้สูญหายไป โดยขณะเกิดเหตุได้หายไปจากจอเรดาร์และการสื่อสารก็ขาดไป ในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
เครื่องบินลำดังกล่าวให้บริการเป็นเที่ยวบินพยาบาลเหมาลำ โดยเส้นทางบินจากอู่ตะเภา ไปคยา ประเทศอินเดีย จากนั้นไปต่อยังทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน และไปสิ้นสุดที่สนามบินนานาชาติจูคอฟสกีในมอสโก
เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวว่า เครื่องบินลำนี้สร้างขึ้นในปี 1978 และเป็นของบริษัทเอกชน Athletic Group LLC
คณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียกล่าวในเวลาต่อมาว่า กำลังเริ่มสืบสวนว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีการละเมิดกฎความปลอดภัยทางอากาศหรือความประมาทเลินเล่อหรือไม่ หรือเกิดจากเหตุขัดข้องอื่นใด
แต่กระทรวงการบินของอัฟกานิสถานระบุว่า เส้นทางที่วางแผนไว้ของเครื่องบินเดิมไม่มีการผ่านน่านฟ้าของอัฟกานิสถาน จึงคาดว่าอาจเกิดปัญหาทางเทคนิค ทำให้เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางจากที่วางแผนไว้
ในตอนแรกมีความสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ โดยโฆษกกระทรวงสารสนเทศและวัฒนธรรมกลุ่มตาลีบัน อธิบายว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของบริษัทโมร็อกโก และเจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของอินเดียก็บอกว่าเครื่องบินจดทะเบียนในโมร็อกโกเช่นกัน
เครื่องบินลำดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นของบริษัทความช่วยเหลือทางการแพทย์แห่งหนึ่งในโมร็อกโก อย่างไรก็ตาม พนักงานคนหนึ่งของบริษัทระบุว่า ไม่ได้ดำเนินธุรกิจอีกต่อไปแล้ว และตอนนี้เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของคนอื่นแล้ว
ด้าน ซาบีอุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกระดับสูงของรัฐบาลตาลีบัน กล่าวว่า ทีมกู้ภัยกองทัพอากาศอัฟกานิสถานกำลังค้นหาพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม “ทีมสืบสวนของเรายังคงพยายามค้นหาและให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลที่เหลืออยู่”
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ประมาณ 25 นาทีก่อนที่เครื่องบินจะหายจากจอเรดาร์ นักบินเตือนว่าเชื้อเพลิงกำลังเหลือน้อย และเครื่องบินจะพยายามลงจอดที่สนามบินแห่งหนึ่งในทาจิกิสถาน โดยระบุว่า เครื่องยนต์เครื่องหนึ่งหยุดทำงานแล้ว และเครื่องยนต์เครื่องที่สองก็หยุดเช่นกัน
แต่ยังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของรายงานดังกล่าวได้
ขณะที่สำนักข่าว RIA ของรัสเซีย รายงานว่า “บนเครื่องมีผู้ป่วยอาการสาหัส เป็นพลเมืองรัสเซีย ซึ่งกำลังถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพัทยาไปยังรัสเซีย … เธอเดินทางมาพร้อมกับสามี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเอกชน และเป็นพลเมืองรัสเซีย”
สื่อรัสเซียหลายแห่งระบุว่า ผู้โดยสารเหล่านี้เป็นคู่สามีภรรยาจากโวลโกดอนสก์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย ส่วนลูกเรือก็ดูเหมือนจะเป็นชาวรัสเซียเช่นเดียวกัน
เรียบเรียงจาก Reuters / Washington Post
เปิดเงื่อนไข กาตาร์ พบ จีน ส่งผลต่อทีมไทย ลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมเอเชียน คัพ 2023
สรุปอันดับโลกวอลเลย์บอลหญิงไทย ก่อนลุยศึกเนชั่นส์ ลีก 2024
อ.ปริญญา ซัดตำรวจจับแพะลุงเปี๊ยก สะท้อนระบบยุติธรรม